ในแต่ละวันย่อมมีเหตุการณ์ผ่านเข้ามาในชีวิตเรามากมายหลายสิ่ง เราได้พบปะผู้คน ออกเดินทางท่องเที่ยวผจญภัยในหลาย ๆ รูปแบบ บางทริปถ่ายรูปไว้ดูเล่น แต่ไม่ได้อยากเขียนออกมาเล่าสู่กันฟังสักเท่าไหร่ อาจเพราะรู้สึกว่าเป็นสถานที่ที่คุ้นชิน ขับรถเองเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายแล้ว แต่สำหรับทริปที่จะกล่าวถึงต่อจากนี้เป็นทริปล่าสุดของชาว #triptwt ในการไปเยือนเขาใหญ่ เขาแผงม้า และวังน้ำเขียว
หลายท่านอาจจะสงสัยว่ากลุ่ม #triptwt คืออะไร ก็ขอเฉลยความเป็นมาเป็นไปตั้งแต่ต่อนนี้เลยนะคะ กลุ่ม #triptwt ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวกันของเพื่อน ๆ ในสังคมทวิตเตอร์ที่มีรสนิยมชอบเที่ยวในลักษณะที่คล้าย ๆ กัน โดยทริปแรกของพวกเราคือ หุ่นขี้ผึ้งราชบุรี – ตลาดน้ำอัมพวา (เพื่อน ๆ สามารถเข้าชมรูปได้ที่นี่เลย http://www.facebook.com/triptwt ) และหลังจากนั้นเราก็มีการรวมตัวกันไปเที่ยวอีกหลายสถานที่
เกริ่นมาพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ทริปเขาใหญ่ เขาแผงม้า วังน้ำเขียวเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเรากลับจากการท่องเที่ยวที่ฮานอย-ซาปา ประเทศเวียดนาม โดยที่ตั้งใจไว้คือ 31 มีนาคม 2556 จะเป็นวันสุดท้ายที่มีการจัดงาน วังน้ำเขียวฟลอร่าแฟนตาเซีย ซึ่งเป็นการจัดแสดงดอกไม้หลากหลายชนิด พอเราปักธงได้แล้วว่าจะไปชมดอกไม้ ก็เลยคิดแผนต่อไป นั่นคือ การหาสถานที่พักที่เพื่อน ๆ สามารถพักได้ สะอาด สวยงาม บรรยากาศดี ซึ่งในครั้งนี้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเราว่าจะเลือกสถานที่ไหนดี ก็พยายามค้นหาจากเว็บจองโรงแรมและที่พักหลายแห่ง โดยเป้าหมายเราต้องเป็นที่ที่อยู่ในพื้นที่วังน้ำเขียว ตอนแรกเราพยายามหาใน Agoda ก่อน แต่ที่พักบริเวณนี้ไม่มีเลย จึงลองคิดว่า ในเมืองไทยยังมีเว็บจองโรงแรมอื่น ๆ อีกไหม คิดได้ดังนั้นจึงลอง Search ถาม Google ก็พบว่า hotels2thailand.com น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี อีกทั้งเราคุ้นชินกับเว็บนี้มานาน น่าจะเปิดให้บริการเกิน10ปีแล้ว ลองค้น ๆ ดู สุดท้ายมาจบที่ วิลลาเขาแผงม้า จองผ่าน www.hotels2thailand.com หลังจากจองที่พักได้แล้ว ก็ลองปรึกษาเพื่อน ๆ ดูว่า เป็นไปได้ไหมถ้าไม่อยากขับรถไปกันเอง เพราะไป 7 คน ถ้าขับรถเองก็ต้องไป 2 คัน เช่ารถตู้น่าจะเป็นทางออกที่ดี ไม่ต้องพะว้าพะวงหาที่จอดรถ ว่าแล้วก็เลยลองทวีตถามเพื่อน ๆ ดูเล่น ๆ ปรากฏมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่า ลองติดต่อ Sixt ดูเพราะเพิ่งใช้บริการแล้วประทับใจ พี่คนขับขับรถได้มาตรฐาน ชำนาญ ปลอดภัย แล้วรถก็น่าจะเป็นรถใหม่ ๆ พวก Honda Stepwagon ก็เลยลองหาในเว็บ six.co.th ดู ปรากฏ ว่าเจอโปรโมชั่นจ่ายด้วยบัตรเครดิต Citibank, KTC, UOB ลด50% เลยไม่รอช้ารีบโทรจองซะเลย
สำหรับคำแนะนำในการจองที่พัก หรือ จองรถเช่าผ่านเว็บ เราควรวางแผนและจองล่วงหน้าขั้นต่ำ 1 เดือน เพราะบางทีเราจะได้รับสิทธิพิเศษหรือโปรโมชั่นดี ๆ จากการจองล่วงหน้า ถ้าจองใกล้วันเดินทางก็ต้องทำใจที่อาจจะต้องจ่ายราคาเต็ม จองเสร็จเรียบร้อยก็สบายใจ เหลือก็แต่เตรียมข้าวของ เตรียมตัวเตรียมใจไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ
เมื่อวันท่องเที่ยวมาถึง เราก็นัดพบกับเพื่อน ๆ ที่ศูนย์ Sixt สาขาถนนพระรามสี่ (ทะลุซอยสุขุมวิท 22) แรกเริ่มก็เข้าไปสอบถามบริการประเภทต่าง ๆ ก็เปิดโลกทัศน์ดีว่า บริการรถเช่า ไม่ได้จำกัดแค่รถเก๋งธรรมดา4ที่นั่งเหมือนดังที่เราเข้าใจ ทาง Sixt มีบริการรถทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถธรรมดาไปจนถึงรถราคาแพง ๆ รถเปิดประทุน (ประเภทรถ สามารถดูได้จาก www.sixt.co.th) ในวันนี้เราจอง Honda Step Wagon พร้อมคนขับ แต่ถ้าหากเราจะขับเอง จะต้องวางเงินประกันรถเช่าเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท (สามารถรูดบัตรเครดิตกันวงเงินตรงส่วนนี้ไว้ได้)
ใครสนใจใช้บริการเข้าไปที่ www.sixt.co.th ได้เลยค่ะ มีบริการจองออนไลน์ด้วย หรือโทรไปที่ 1798 ส่วนการรับรถก็มีที่ สาขาพระราม 3 สาขาพระราม 4 สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ และ สนามบินภูเก็ต (ดูแผนที่ได้ที่ http://www.sixtthailand.com/location.php)
รับรถเรียบร้อย รถ Honda Stepwagon ใหม่ ป้ายแดง เจ้าหน้าที่บอกว่าพวกเราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้รถคันนี้เลย
เอาหละ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว พี่คนขับใส่เสื้อส้มแปร้ด ขึ้นรถแนะนำตัวอย่างสุภาพมาก ขับรถนุ่มไม่กระโชกกระชาก อยากบอกจริง ๆ ว่า ความรู้สึกแตกต่างจากเวลาที่เรานั่งรถตู้เช่าที่อื่นเพื่อไปต่างจังหวัด ที่คนขับอาจจะไม่ได้คำนึงถึงการขับรถที่นุ่มนวล หรือมารยาทการขับรถสักเท่าไหร่
พวกเราออกเดินทาง มุ่งหน้าไปยังเขาใหญ่ สถานที่แรกที่แวะทานอาหารกลางวัน ได้แก่ ร้านอาหารบ้านไม้ชายน้ำ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ใครไปแถวเขาใหญ่ ปากช่องก็ต้องแวะ เนื่องด้วยสถานที่ บรรยากาศการตกแต่งร้านที่มีของเก่าสะสมประดับประดาคล้ายกับกำลังเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปเพลิน ๆ ได้ ส่วนใครถ้าไม่อยากทานอาหารทางร้านจะคิดค่าเข้าชมสถานที่ราคา 50 บาท
เดินชมบรรยากาศภายในร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้โต๊ะพอดีเลย … มาดูเมนูอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ
หลังจากอิ่มหนำสำราญ เดินชิลถ่ายรูปภายในร้านเรียบร้อยแล้ว พี่คนขับรถก็วนรถมารับเรา (เป็นธรรมเนียมว่า ถ้าเช่ารถไป พี่คนขับเขาจะไปหาอาหารทานเอง ส่วนในแต่ละวันเราจะให้ Tips เขาเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับน้ำใจงาม ๆ ของผู้เช่ารถ) เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ปาลิโอ้เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใครมาเขาใหญ่ พวกเราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินชิล ชิม ชม ช้อป แชะ แบบนอนสต้อป
เดินชิล ชิม ชม ช้อป แชะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาออกเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ วิลล่าเขาแผงม้า ระหว่างทางจอดรถแวะถ่ายรูปที่รีสอร์ท Toscana ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนต้องแวะถ่าย และด้วยพลังซูม 21 เท่าของกล้อง Samsung Galaxy Camera ทำให้เราได้ภาพถ่ายชัดเป๊ะทะลุไปถึงหน้าต่างรีสอร์ทกันเลยทีเดียวเชียว
ขับรถต่อมาอีกนิดนึง เราก็ถึงที่พัก วิลล่าเขาแผงม้า แว่บแรกที่เดินเข้าประตูไปก็รู้สึกว่า สิ่งต่าง ๆ เหมือนตอนเรามาครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม อบอวลไปด้วยกลิ่นอายสไตล์บาหลี เก็บกระเป๋าเข้าห้องพักเรียบร้อยก็มีเวลาว่างพอที่จะว่ายน้ำ นวดไทย ทำอะไร ๆ ตามใจฉันท์
จนถึงเวลาประมาณหกโมงเย็น ก็ได้เวลาออกเดินทางไปทานอาหารค่ำมื้อพิเศษ ๆ ที่ Village Farm & Winery ซึ่งร้านนี้เป็นที่ร่ำลือกันมากกว่า เป็นสถานที่ผลิตไวน์ชั้นยอด และ ส่งออกไปจำหน่ายไกลถึงฝรั่งเศส
สั่งอาหารพูดคุยสรวลเสเฮฮา พร้อมจิบไวน์ Chateau des Brumes – Le Prestige และ Village Cellar (Red) (สำหรับนักชิมไวน์ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดของไวน์แต่ละประเภทได้ที่ http://www.villagefarm.co.th/products/products.php) อิ่มหนำสำราญเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากลับเข้าที่พัก วิลล่าเขาแผงม้า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
=====
เอกอี้เอ้ก ๆ เช้าแล้ววันใหม่ เราได้รับประทานอาหารเช้าร่วมกัน อิ่มได้สักพักหนึ่งเจ้าของรีสอร์ทผู้น่ารักใจดีก็พาเราเดินทัวร์เที่ยวชมห้องประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องจัดเลี้ยง บ้านพักแบบPool Villa บ้านพักแบบต่าง ๆ และบริเวณโดยรอบรีสอร์ทที่มีการปลูกผลไม้ และ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์(ผักที่ปลูกด้วยน้ำ ลดการใช้สารเคมี)
เลี้ยวรถออกจากโรงแรมเพียงไม่ถึง 20 เมตร ก็ถึงสถานที่จัดงาน Flora Park เสียค่าบัตรเข้าชมงานแสดงดอกไม้คนละ 50 บาท เดินได้สักพักหนึ่ง ก็กลับมาถ่ายรูปหน้างานกับเจ้ากระทิงน้อยสีเขียวพ่อลูกที่อยู่หน้างานเป็นที่ระลึกก่อนที่จะเดินทางกลับทางฝั่งเขาใหญ่เหมือนเดิม
ออกจาก Flora Park แล้ว เราบอกให้พี่พลขับขับรถพาไปทานอาหารร้านครัวเขาใหญ่ ร้านที่ใคร ๆ มาเขาใหญ่เป็นอันต้องแวะทานทุกครั้ง โดยเมนูยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องสั่งคือ สเต็กแฮมชิ้นหนา ๆ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เราไปหาของหวานทานต่อ ณ Dairy Home ซึ่งเป็นร้านที่เราชอบมาก ทุกครั้งที่มาเขาใหญ่ก็ต้องแวะร้านนี้เป็นประจำ ด้วยกลยุทธ์ซื้อไอศครีมแถมถ้วยเซรามิค เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาเด็ก ๆ และคนหนุ่มสาวยิ่งนัก
หลังจากแวะ Dairy Home เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน สรุปสำหรับทริปนี้ได้รับความสุข สนุกสนานกลับไปเต็ม ๆ เรานั่งพูดคุยกันในรถสนุนสนานมากมาย และเตรียมวางแผน #triptwt ครั้งถัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะไปที่ไหนนั้นรอติดตามกันนะคะ
ท้ายที่สุด สิ่งที่สำคัญในทริปที่อยากบอกทุกคนรับรู้คือ 1.พี่พลขับจาก Sixt ให้บริการดีมาก พูดจาสุภาพ และ เป็นกันเอง (แม้ว่าพี่เขาจะได้รับค่าจ้างแล้วแต่พวกเราให้ Tips เขาไปเพื่อแสดงน้ำใจเล็กน้อย) คราวหน้าถ้าต้องนั่งรถเช่าไปต่างจังหวัด ก็คงเลือกใช้บริการจาก Sixt เหมือนเดิม เพราะบริการดี ขับดี ปลอดภัย สบายใจ 2.กล้อง Samsung Galaxy Camera กล้องดี ๆ ที่ให้เราถ่ายรูปเสร็จแล้วแชร์ได้โพสต์ได้เลย ข้อดีที่เรามองเห็นจริง ๆ และประทับใจมากคือ การซูม 21 เท่า อยู่ไกลขนาดไหนก็ซูมถึง คม ชัด เป๊ะ 3.Hotels2Thailand.com สำหรับห้องพักดี ๆ ราคาพิเศษ ๆ และความจริงที่รู้ก็คือ ยังมีอีกหลายโรงแรมที่ไม่ขายผ่านเว็บจองโรงแรมชื่อดังในไทย (เว็บที่คุณก็รู้ว่าใคร) 4.วิลลาเขาแผงม้าเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อนจริง ๆ อีกทั้งโชคดีเจเจ้าของรีสอร์ทให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่น แถมพาเดินชมซะทั่วอาณาบริเวณ
ทุกท่านสามารถตามอ่านเรื่องราว #triptwt ผ่านมุมมองของเพื่อนร่วมทริปได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ ภาพอาจจะซ้ำกันบ้างเพราะทั้ง3คนใช้กล้อง Samsung Galaxy Camera เหมือนกันหมดเลย
#triptwt พาชิลเขาแผงม้า by @kafaa : http://www.kafaak.com/2013/04/02/triptwt-to-khaopaengma-2013/
วังน้ำเขียวพาเพลิน by @noot010
ตอนที่1 http://www.noot010.com/wang-nam-keow-triptwt/
ตอนที่2 http://www.noot010.com/wang-nam-koew-2-triptwt/
ตอนที่3 http://www.noot010.com/wang-nam-koew-3-triptwt/