แปดโมงเช้าวันอาทิตย์ วันและเวลาที่ใครหลาย ๆ คนกำลังหลับพักผ่อนอย่างสบาย แต่เรารีบตื่นแต่เช้าด้วยเหตุผลว่านัดร้านล้างรถไว้หลังจากที่ไม่ได้ล้างขัดเคลือบแบบครบสูตรมาหลายเดือนแล้ว เราขับรถชิล ๆ ไปถึงร้าน MolyCare สาขารัชดา-ท่าพระ เยื้องเดอะมอลล์ท่าพระ

ศูนย์ Moly Care สาขารัชดา-ท่าพระ เยื้องเดอะมอลล์ท่าพระ เดิน800เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู
ศูนย์ Moly Care สาขารัชดา-ท่าพระ เยื้องเดอะมอลล์ท่าพระ เดิน800เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู (เจ้าของร้านสวย น่ารัก ใจดีจริง ๆ นะจ๊ะ)

ผู้จัดการร้านได้อธิบายถึงวิธีการล้างรถแบบ 7 ขั้นตอนให้ฟังอย่างละเอียดยิบ โดยขั้นตอนทั้งหมดกินเวลายาวนานประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง (ในระหว่างนี้สามารถข้ามสะพานลอยไปเดินเล่นชิล ๆ ที่เดอะมอลล์ท่าพระได้)  มาดูกันเลยค่ะว่าเขาทำอะไรกับรถเราบ้างก่อนและหลังทำแทบจำไม่ได้กันเลย

ปัญหาของรถเราวันนี้คือ มีคราบยางมะตอยเป็นจุดดำ ๆ เกาะตามขอบถังประตู , มีรอยขีดข่วนเข้าเนื้อไปแล้ว และ รอยเฉี่ยวผิว ๆ ที่ผู้จัดการร้านชี้ทีละจุดเลยว่าบอกว่า สบายมาก ขัดออกแน่นอน ^__^

ขั้นตอนการล้างรถ พอดีเข้าไปดูในเว็บ molycare.com เขามีเขียนขั้นตอนเหล่านี้พร้อมกับชื่อน้ำยาที่ใช้ยี่ห้อ Car-Lack จากเยอรมัน ซึ่งเราถ่ายรูปไว้ทันแค่น้ำยาบางตัวเท่านั้น จึงขออนุญาตนำมาเขียนเล่าใหม่บวกกับประสบการณ์ที่ได้เจอกับตัว

ก่อนจะล้างรถ มีขั้นตอนการส่งรถให้เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่จะกรอกใบรายการ และ ตรวจสอบรถก่อนว่ามีจุดไหนบ้างที่เป็นรอยตำหนิอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า เจ้าหน้าที่มีการดูแลรักษารถเป็นอย่างดี อีกทั้งมีกล่องเก็บกุญแจรถอย่างมิดชิดและปลอดภัย

ขั้นตอนการบริการ มาตรฐาน 7 ขั้นตอน มีดังนี้ค่ะ

1. ล้าง
ขั้นตอนแรกมีการล้างห้องเครื่อง และล้างตัวถังรถโดยใช้น้ำแรงดันสูงฉีดพ่นผุ่นที่เกาะตัวถังรถ จากนั้นมีสเปรย์ Removal ฉีด ๆ บริเวณที่มียางมะตอยเกาะ เพื่อให้ยางมะตอยหลุด (เราแอบไปสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ยางมะตอยหลุดจริง ๆ ด้วย ปกติล้างที่อื่น ยังไงคราบพวกนี้จะไม่ค่อยหลุด) จากนั้นฉีดโฟม คาร์แลค 68 ปราศจากสารกัดสี สามารถขจัดคราบน้ำมัน โคลน เขม่ารอยเปื้อนต่างๆ ได้อย่างหมดจด และเงางาม

ขั้นตอนแรก ล้างรถ ขจัดฝุ่น คราบยางมะตอยและคราบฝังแน่น
ขั้นตอนแรก ล้างรถ ขจัดฝุ่น คราบยางมะตอยและคราบฝังแน่น
ฉีดน้ำยาทำความสะอาดห้องเครื่อง
ฉีดน้ำยาทำความสะอาดห้องเครื่อง

2. ขจัดคราบสกปรกฝังลึก
เมื่อรถของเราอาบน้ำเสร็จแล้ว ช่างจะขับรถจากจุดเปียกมายังจุดแห้ง หลังจากนั้นจะเริ่มใช้ดินน้ำมัน SuperClay ปั้นเป็นก้อนพอดีมือขัด ๆ ถู ๆ รถเรารอบคันเลย และใช้ Car-Lack 68 Surfaces Cleaner  เพื่อขจัดคราบสกปรกที่ฝึงลึก ริ้วรอย และปรับสภาพผิวสี

Car-Lack SuperClay ดินน้ำมันทรงพลังขจัดคราบ
Car-Lack SuperClay ดินน้ำมันทรงพลังขจัดคราบ

ก่อนเคลือบสี โดยช่างจะป้ายครีมลงไปบนหัวขัดที่เป็นฟองน้ำสีเขียว ๆ ช่างบอกว่า บางร้านใช้หัวขัดแบบขนแกะ ซึ่งพอขัดวนไปเรื่อย ๆ จะทิ้งร่องรอยการขัดไว้พอสมควร ในขณะหัวขัดแบบฟองน้ำเฉพาะของ Car-Lack จะไม่เกิดปัญหานี้ โดยขั้นตอนนี้กินเวลายาวนานมาก จุดไหนที่หัวขัดเข้าไม่ถึง ช่างจะใช้แปรงสีฟันพยายามขัดคราบสิ่งสกปรกตามซอกออกมาให้สะอาดหมดจดจนได้ (แอบทึ่งในความถึก ความอดทน ความละเอียดในการทำงานของช่างมาก ๆ )

ขั้นตอนการเตรียมหัวขัดก่อน โดยต้องป้ายน้ำยา Car-Lack Super Surface Cleaner และ Cut Remover
ขั้นตอนการเตรียมหัวขัดก่อน โดยต้องป้ายน้ำยา Car-Lack Super Surface Cleaner และ Cut Remover
ขั้นตอนการขัดเคลือบรอบคัน ใช้เวลาร่วม3ชั่วโมง
ขั้นตอนการขัดเคลือบรอบคัน ใช้เวลาร่วม3ชั่วโมง

3. เคลือบ
การเคลือบสีรถยนต์ กระจก โครเมี่ยม ไฟรถยนต์ กระจกมองข้างและวัสดุผิวเรียบภายนอกรถด้วย Car-Lack 68 Systematic Care ซึ่งถ้าดูตามโบรชัวร์ที่ให้ไว้ น้ำยาตัวนี้จะประกอบด้วยสารโพลีเอธิลีน อะคริลิค สารทำความสะอาดผิวสี และสารปกป้องรังสียูวี ทนอุณหภูมิสูงสุดถึง 320 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 160 องศาเซลเซียส แผ่นฟิลม์คาร์แลค 68 จะทำหน้าที่เคลือบปกป้องผิวสีรถ เสริมความแข็งแกร่ง ป้องกันรอยขีดข่วน มูลนก ยางไม้ น้ำค้าง น้ำมันเบนซิน และมลภาวะต่างๆ ในขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่จะขัดสีให้ดูก่อนครึ่งนึง จากนั้นจะเชิญเรามาทดลองลูบคลำผิวเคลือบรถ พบว่าผิดกันอย่างเห็นได้ชัด ตรงที่เคลือบแล้วจะลื่นมาก ลูบไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย

 

ขัดเคลือบแม้บนผิวกระจก
ขัดเคลือบแม้บนผิวกระจก

4. เคลือบทับพิเศษ
เคลือบทับพิเศษด้วย Car-Lack 68 Long Life Acryl เป็นอะคริลิคชนิดเข้มข้น ที่สร้างความเงางาม มีประกายยิ่งขึ้นและยังสร้างชั้นฟิล์มที่เงางามมากขึ้น คลุมทับปกป้องบนฟิล์มของคาร์แลค 68 อีกครั้ง

น้ำยาเคลือบ 2 ตัวนี้ ทำให้รถเรียบลื่น ลดฝุ่นเกาะ
น้ำยาเคลือบ 2 ตัวนี้ ทำให้รถเรียบลื่น ลดฝุ่นเกาะ สร้างประกายเงางามให้รถ

5. ดูแลความสะอาดอุปกรณ์ภายนอกทุกชิ้นส่วน
ขั้นตอนนี้ จริง ๆ แล้วถ้ามีเจ้าหน้าที่หลายคน เจ้าหน้าที่จะช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์ภายนอกรถทุกชิ้นส่วน ตั้งแต่ขั้นตอนต้น ๆ เลย โดยใช้ผลิตภัณฑ์คาร์แลค 68 ดังนี้
– ยางรถยนต์ ใช้ Car-Lack68 Clear Rubber Dressing
– กันชนโครเมียม กระจกใช้ Car-Lack 68 Systematic Care
– กันชนไฟเบอร์ใช้ Car-Lack 68 Clear Rubber Dressing
– ล้อแมกซ์ใช้ Car-Lack 68 Mag Wheel Cleaner และเคลือบทับด้วยน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 นาโนเทค และมีการใช้แปรงสีฟันขัดทุกซอกทุกมุมแบบละเอียดยิบ

ช่างขัดถูล้อแมกซ์อย่างละเอียดยิบ สะอาดหมดจด
ช่างขัดถูล้อแมกซ์อย่างละเอียดยิบ สะอาดหมดจด

6. ทำความสะอาดภายใน
เคลือบคอนโซล เบาะหนัง และทุกชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก ไวนิล หนังเทียม หนังแท้ ด้วย Car-Lack 68 Leather Polisher เพื่อสร้างความเงางาม โดยไม่ทั้งคราบเหนียว หรือกลิ่น เทขยะดูดฝุ่นที่พรม เบาะ ทุกซอกมุม นอกจากนี้ทางร้านมีบริการอบโอโซนเพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ตามช่องแอร์ (บริการนี้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก100-200บาท ตามโปรโมชั่นของร้าน)

ตรวจสอบความสะอาดภายในรถ ส่งมอบรถก่อนกลับ
ตรวจสอบความสะอาดภายในรถ ส่งมอบรถก่อนกลับ

7. ตรวจสอบคุณภาพขั้นสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพ จะทำการตรวจสอบ ความแวววาว ความสะอาด รวมทั้งเก็บงานในส่วนของการขัดพ่นแวกซ์ในห้องเครื่อง เพื่อให้สะอาดเงางามเป็นประกาย

ตรวจสอบขั้นตอนสุดท้าย พร้อมฉีดพ่นแว้กซ์ห้องเครื่องให้เงางาม
ตรวจสอบขั้นตอนสุดท้าย พร้อมฉีดพ่นแว้กซ์ห้องเครื่องให้เงางาม

เมื่อรับรถแล้ว เราสำรวจรอบคัน ผลงานที่ออกมาประทับใจมากเลยค่ะ ไม่มีคราบขาว ๆ เกาะตามขอบประตู หรือ ตรงซอกต่าง ๆ เหมือนขัดเคลือบที่ร้านอื่น
รถเงามาก รอยบางรอยดังเช่นภาพด้านล่าง อัตรธานหายไปจริง ๆ ค่ะ

รอยรถเฉี่ยวผิวหน้าแบบนี้ สามารถขัดออกได้
รอยรถเฉี่ยวผิวหน้าแบบนี้ สามารถขัดออกได้

 

ส่งมอบรถเรียบร้อย เงาวิ้บแว้บผิดกับตอนก่อนล้างขัดเคลือบมาก
ส่งมอบรถเรียบร้อย เงาวิ้บแว้บผิดกับตอนก่อนล้างขัดเคลือบมาก

เกร็ดความรู้เพิ่มเติมที่ได้จากการพูดคุยสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่
1.สีรถที่ขัดยากที่สุด คือ สีดำ รองลงมาเป็นสีขาว เพราะเป็นสีที่เห็นคราบต่าง ๆ เด่นชัดมาก
2.สีรถที่ล้างขัดเคลือบออกมาแล้วสวยที่สุด ก็ได้แก่ สีดำ และ สีขาวอีกเช่นกัน
3.สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาล้างรถสักเท่าไหร่ แนะนำรถสีบรอนซ์เทา, เงินและทอง ก็เป็นสีที่ดูแลง่าย
4.ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการล้างรถในฤดูฝนว่าไม่จำเป็น เพราะเดี๋ยวล้างเสร็จฝนก็ตก สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ความจริงแล้ว เราควรมาล้างขัดเคลือบรถบ้าง เพื่อป้องกันคราบฝุ่นที่มากับน้ำฝน สังเกตว่าถ้าเราไม่ล้าง พอรถแห้งจะเจอคราบฝุ่นจับตัวฝังแน่นมากจนทำให้รถเป็นรอยถาวร การล้างขัดเคลือบจะช่วยให้เช็ดฝุ่นที่เกาะออกง่ายมาก
5.เนื่องจาก MolyCare เป็นร้านล้างรถในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ละสาขาอาจจะมีโปรโมชั่นที่เหมือนและแตกต่างกัน แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ถ้าหากใครใช้ AIS สามารถล้างได้ในราคา 390 บาทเท่านั้นจ้า

 

Promotion ลูกค้า AIS รับสิทธิ์ตลอดปี 2556 นี้
Promotion ลูกค้า AIS รับสิทธิ์ตลอดปี 2556 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจบริการล้างขัดเคลือบรถ สามารถติดต่อ MolyCare สาขาใกล้บ้านคุณ (เท่าที่รู้ตอนนี้มีเกือบ 60 สาขาทั่วประเทศ ถ้าเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลก็มีเกือบ 30 แห่งแล้ว)

มาอาบน้ำสะอาด ๆ ให้รถกับ MolyCare กันเถอะค่ะ ^_^