การได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานรับผิดชอบSocial Mediaงานแถลงข่าวและสัมมนาเปิดตัว Global Talent Competitiveness Index หรือ ดัชนีชี้วัดความสามารถในการเก็บรักษาคนเก่งไว้ในองค์กร ที่ปีนี้เป็นฉบับแรก ที่จัดทำโดย วิทยาลัยINSEAD, Human Capital Leadership Institute of Singapore (HCLI) และ Adecco Group ถือเป็นงานระดับ Global ครั้งแรกของเราที่ได้เข้าร่วม ทำเอาแทบนอนไม่หลับ ด้วยใจนึงก็ห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่นิ่ง อีกใจนึงก็กลัวว่างานที่ทำจะออกมาดีหรือไม่เพราะข้อมูลบางอย่างเป็นศัพท์เชิงลึกทางด้านสถิติ การวิจัย และ HR

มาถึงสนามบินก็รีบไปที่ Adecco Singapore ก่อนเลย สำนักงานตั้งอยู่ชั้น18 ตึก Shaw Centre ถนน Scott Road ติดกับ Orchard Road (ใครอยู่สิงคโปร์อยากหางานใหม่ แวะไปเยี่ยมเยียนได้นะคะ ^^)

ต่อจากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปประชุมเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันงานจริงในวันรุ่งขึ้นที่สถานที่จัดงาน INSEAD Singapore เราก็ต้องตกใจเพราะไม่คุ้นชินกับการประชุมกับชาวต่างประเทศที่ทำงานด้าน Academic ทั้งห้อง โดยมี Professor Paul Evans, Academic Director of the INSEAD Global Talent Competitiveness Index, Emeritus Professor of Organisational Behaviour, The Shell Chaired Professor of Human Resources and Organisational Development, Emeritus, at INSEAD และ Mr.Bruno Lanvin, Executive Director for Global Indices at INSEAD ที่เป็นเจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งดูน่าเกรงขามสำหรับเรามาก ๆ ในใจก็เริ่มเหงื่อตกว่า พรุ่งนี้จะไหวไหมหนอ

กลางคืนจึงโทร Line กลับไปปรึกษาหัวหน้าว่า กำลังอยู่ในสภาพลนลาน เครียด กลัวงานจะออกมาไม่ดีเพราะเราต้องทำงานหลายสิ่งในเวลาพร้อมกัน ใครที่ทำงานในด้าน Social Media ก็คงจะรู้จักพฤติกรรม Multitasking ตาดู หูฟัง มือพิมพ์สลับกดชัตเตอร์แชะๆๆ พร้อมโพสต์ข้อมูลสด แถมครั้งนี้เป็นงานอินเตอร์มาก ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานสวิตเซอร์แลนด์เป็นครั้งแรก

หัวหน้าน่ารักมากจริง ๆ นอกจากจะช่วยอธิบายงานที่จะเกิดขึ้นให้ฟังจากภาษายาก ๆ ศัพท์เฉพาะทางด้าน HR Academic เยอะ ๆ ให้กลายเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ แล้วยังโค้ชว่าสิ่งที่ควรเตรียมความพร้อม คือ 1.หากรู้สึกว่าต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกันแล้วทำได้ไม่ดีให้จัดลำดับความสำคัญของงาน 2.ศึกษาเอกสารแล้วเข้าใจ Conceptual ให้ได้ และข้อ3.ตรงไหนทำไม่ได้ ติดข้อจำกัดอะไรให้บอกทีมงานก่อนตรง ๆ ว่าเราทำได้แค่ไหน ไม่ต้องเกรงใจ

พอวางสายจากหัวหน้า ก็ได้เวลาอ่านและทำความเข้าใจกับงานวิจัย Global Talent Competitiveness Index ให้ถี่ถ้วนสรุปใจความได้ว่า Global Talent Competitiveness Index เป็นงานวิจัยชิ้นแรกของโลกที่จัดอันดับจาก 103 ประเทศที่มีประชากรรวม 86.3% ของประชากรโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรวมกันเป็น  96.7% ของโลก (ดอลล่าร์สหรัฐ) เพื่อดูว่าประเทศไหนมีการเก็บรักษาคนเก่งในองค์กรได้ดีที่สุด ใช้วัดความสามารถในการเก็บรักษาคนเก่งของประเทศโดยดูจากคุณภาพของคนเก่ง การดึงดูดและเก็บรักษาคนเก่ง เป็นสิ่งที่ช่วยตรวจสอบความก้าวหน้าและเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการดำเนินงานของประเทศนั้น ๆ กับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศผู้นำเศรษฐกิจอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจตัดสินใจสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาความสามารถในการเก็บรักษาคนเก่งให้ดีขึ้น โดยงานวิจัยชิ้นนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง 3  สถาบันยักษ์ใหญ่ทางด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ วิทยาลัยINSEAD, Human Capital Leadership Institute of Singapore (HCLI) และ Adecco Group

มาดูผลลัพธ์ที่น่าสนใจกันค่ะ

จะเห็นว่าประเทศที่มีความสามารถในการเก็บรักษาคนเก่งในอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบยุโรป และมีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ในทวีปยุโรปคือ สิงคโปร์ (อันดับที่ 2) และ สหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 9) ซึ่งผลลัพธ์ 10 อันดับแรกนั้น สะท้อนให้เห็นถึงประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและคุณภาพชีวิต การปลูกฝังค่านิยมที่ดีตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดังองค์กร

และเมื่อเทียบดูเฉพาะในโซนเอเซีย ได้ผลลัพธ์ดังนี้

(แอบไปดูในเล่มมา เพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเราเช่นเวียดนาม อยู่อันดับที่ 82 ในขณะที่ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 72 ก็ต้องมาตามดูกันต่อไปว่าหากมีงานวิจัยในปีหน้า เราจะอยู่ที่อันดับเท่าไหร่ และสะท้อนภาพอะไรบ้าง)

เอาหละ พอสมควรในเนื้อหาสาระวิชาการไปแล้ว หากใครสนใจอ่าน รายละเอียดเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดงานวิจัยในรูปแบบPDF สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://global-indices.insead.edu/gtci/ หรือถ้าอยากลองอ่านข้อมูลสรุป ลองเข้าไปที่ http://www.adecco.co.th/jobs/adecco-news-detail.aspx?id=1407&c=2

มาถึงวันงาน Press Conference เรารีบไปแต่เช้าจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำ Live Tweet การถ่ายภาพสด อุปกรณ์ได้แก่ Samsung Galaxy Note3 สำหรับทำงานกับทีมที่ต่างประเทศ, Samsung Galaxy Camera สำหรับถ่ายภาพกรณีที่นั่งอยู่ไกล ซูมได้ถึง21เท่าจากหลังห้องไปหน้าเวที และอุปกรณ์ตัวสุดท้าย คือ กล้องSony RX100II ที่เพิ่งถอยมาหมาด ๆ เพราะถ่ายรูปได้สวย ภาพคมชัดสุด ๆ อีกทั้งเป็นWifi Cameraเหมาะแก่การทำงานประเภทนี้มากๆ ส่วนโน้ตบุค จริง ๆ ก็นำไปแต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวยจึงไม่ได้เปิดใช้เลย สรุปได้ว่า ทำงานผ่านมือถือเครื่องเดียวก็คล่องตัวดี

งานช่วงเช้าเป็นงานแถลงข่าวเปิดตัว Global Talent Competitiveness Index มีนักข่าวจากหลายสำนักมาร่วมงานครั้งนี้ ส่วนงานช่วงบ่ายเป็นสัมมนาโดยเชิญบุคคลสำคัญพูดคุยในเรื่อง Talent (คนเก่งและดีในองค์กร) ซึ่ง Mr.Ian Grundy, Head, Marketing & Communications, Adecco Asia เป็นตัวแทนจาก Adecco ขึ้นพูดทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาร่วม 200 คน

เราก็ถ่ายรูปพร้อมส่งข้อความไปยังทีมงานต่างประเทศเพื่อสกรีนเรื่องภาษาและโพสต์ลงSocial Media งานจบลงด้วยดี Happy Ending เราก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน Social Media ระดับอินเตอร์ครั้งแรกในชีวิต ส่วนสิ่งที่คิดว่าอยากทำให้ดีกว่านี้ คือ ทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้สำหรับงานPRหรือการเขียนข่าวเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก Content ดี ก็ต้องถ่ายทอดด้วยภาษาที่อ่าน เข้าใจง่าย และ ถูกต้อง

สำหรับข้อคิดที่อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ก็คือ หากเราไม่ปฏิเสธโอกาสที่มีคนหยิบยื่นให้ แม้จะทำไปด้วยความกล้าๆกลัว ๆ ก็ตาม เชื่อไหมว่าประสบการณ์ที่ได้รับกลับมา ไม่ว่าเป็นเรื่องดีหรือจุดบกพร่อง อย่างไรซะ ก็มีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียเลย …. จริง ๆ นะคะ ^__^